ข่าวเด่นวันนี้
กภส.เข้าร่วมพิธีปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับคลื่อนชุมชนเข้มแข็งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 (กิจกรรมเปิดกระปุกออมสิน)

วันที่ 6 ธ.ค. 2567

   เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีปิดโครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือนขับคลื่อนชุมชนเข้มแข็งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6รอบ 28กรกฎาคม 2567 (กิจกรรมเปิดกระปุกออมสิน) เพื่อสรุปผลการดำเนินกิจกรรมที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนการเสริมสร้างวินัยทางการเงิน ส่งเสริมการออมไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ ภายใต้โครงการเสริมสร้างวินัยทางการเงินภาคครัวเรือน ขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นโครงการที่ประชาชน สามารถนำความรู้จากกิจกรรมส่งเสริมการออม ไปสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้กับตนเองและในครัวเรือนได้ อีกทั้ง การดำเนินกิจกรรมเสริมสัมพันธ์ ยังช่วยให้ประชาชนในชุมชน มีความรักใคร่สามัคคี ร่วมกันทำนุบำรุงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทำให้เห็นถึงทิศทางที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้เกิดเงินออมในครัวเรือนทั่วประเทศรวมจำนวน 21,380,751 บาท โดยมี นางสาวภัทราภรณ์   โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ นางรพีพร กลั่นเนียม นางสุวรรณี ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสกรณ์ เข้าร่วมในพิธี ณ กรมตรวจบัญชี สหกรณ์ และถ่ายทอดผ่านระบบสื่อสารทางไกล Zoom Meeting
 
    ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นอกจากที่กระทรวงเกษตรฯ จะมุ่งเน้นยกระดับรายได้เกษตรกรแล้วนั้น ยังคงมุ่งส่งเสริมองค์ความรู้ในเรื่องการลดต้นทุน ควบคู่กับการวางแผนและบริหารจัดการด้านการเงินที่เหมาะสม เพื่อสร้างวินัยใน การออมและแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนจากต้นทาง ซึ่งได้มอบหมายกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินการสานต่อโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร อีกทั้งเสริมองค์ความรู้ ให้ภาคประชาชน สามารถนำบัญชีไปใช้วางรากฐานของชีวิต เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความสมดุลในการดำรงชีวิตและกระตุ้นให้เกิดการออมอย่างเป็นรูปธรรม